วันนี้ครบ 21 วันกับการ WFH กักตัวอยู่กับบ้าน กับน้ำหนัก 7 กก. ที่หายไป
วันนี้เป็นวันอังคารที่ 14 เมษายน 2563 ปีแรกในชีวิตที่มีการเลื่อนเทศกาลประเพณีสงกรานต์ออกไป
ตลอดเวลาที่กักตัวเองไว้ ผมสามารถบรรลุ OKR’s & KPI’s ทุกประการ จนได้รับคำชมเชยจากนายในช่วงการ video call ประจำวันเพื่อประชุม update ผลการดำเนินงานและแผนงานต่างๆ จากที่ผมเคยเงอะๆ งะๆ กับเทคโนโลยี เคยใช้เป็นแต่ e-mail กับ Line ตอนนี้ผมสามารถใช้งาน Microsoft Teams, Zoom, Slack, Google Drive, DropBox, EverNote, iCloud ฯลฯ ได้อย่างช่ำชอง แล้วยังรวมไปถึง TikTok ด้วย นี่ถ้ายังมี Jive อยู่ เราคงจะได้ใช้ Enterprise Social Collaboration Platform นี้เพื่อเพิ่ม productivity ได้อีกมากทีเดียวในการทำงานร่วมกันบนออนไลน์
นอกเหนือจากการทำงานต่างๆ ในความรับผิดชอบที่ได้รับการมอบหมายจนมีผลลัพธ์เกินคาดแล้ว ผมยังได้มีเวลาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์จาก free online courses ต่างๆ ใน Udemy, TED Talks, YouTube, Webinar, Facebook Live รวมถึง Thailand Coaching Academy by Jimi the Coach ด้วย นอกจากนี้ ผมยังได้ download บทความต่างๆ บางรายการที่เขาเปิดให้ download ฟรีช่วงนี้จาก Harvard Business Review และ MIT Sloan Management Review เพื่อมาศึกษาเพิ่มพูนความรู้ ทำให้ผมมั่นใจได้ว่า เมื่อพ้นวิกฤติการณ์นี้ไปแล้ว ผมจะมีความรู้ความสามารถที่เพิ่มพูนเพียบพร้อมขึ้นจนสามารถพุ่งทะยานเจริญเติบโตก้าวหน้าไปอย่างไร้ขีดจำกัด
ผมเข้านอนตอน 4 ทุ่มและตื่นตี 5 ทุกวันเพื่อนั่งสมาธิ แล้วออกไปวิ่งออกกำลังกายรอบๆ บ้านวันละ 5 กม. โดยฟัง audiobook ไปด้วยหรือบางวันก็ฟัง podcasts ผมสามารถหลีกเลี่ยงการกินน้ำตาล งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดทำให้ผมไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการที่ทางการระงับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระยะนี้ และยังได้งดเครื่องดื่มที่มี caffeine ทุกชนิดได้โดยสิ้นเชิง ผมได้ eat clean ทุกมื้อพร้อมทั้ง low carb diet แกล้มกับพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้เองหลังบ้าน ไม่กิน red meat เลย บางวันยังได้ทำ IF อีกต่างหาก บ้านเราไม่จำเป็นต้องกักตุนอะไรเลยเพราะเราเลี้ยงไก่ไว้ฝูงหนึ่ง เลยมีไข่ไก่กินอย่างพอเพียงเพื่อเสริมโปรตีนร่วมกับปลาที่เราเลี้ยงไว้ในสระน้ำหน้าบ้าน แม้กระทั่งกระดาษชำระหรือที่บางคนเรียกทิชชูม้วนเราก็ไม่จำเป็นต้องกักตุน เพราะเรามีสิ่งประดิษฐ์มหัศจรรย์ที่เมืองไทยเราใช้กันอย่างแพร่หลาย (ยกเว้นสนามบินสุวรรณภูมิ) แต่ฝรั่งโลกตะวันตกไม่ค่อยจะรู้จักใช้กัน นั่นก็คือ “สายฉีดชำระ”
ผมพักกลางวันราว 11 โมงครึ่งเพื่อเปิดทีวีช่อง COVID-19 TV (NBT 2 HD) ฟังคุณหมอทวีศิลป์อัพเดทสถานการณ์รายวัน รวมทั้งเรื่องที่ประชาชนพึงปฏิบัติ ตามด้วยท่านรองฯ ณัฐภาณุ เพื่อเพิ่มพูนทักษะการฟังภาษาอังกฤษของผมไปด้วย
ผม workout ทุกเย็นโดยประยุกต์ใช้สิ่งของต่างๆ ในบ้านโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์ในฟิตเนสที่ผมเป็นสมาชิกอยู่แต่ถูกปิดไปชั่วคราว ผมสามารถลดน้ำหนักลงได้ถึง 7 กก. ภายใน 21 วันที่ผ่านมา เมื่อเช้านี้ผมยิ้มให้กับตัวเองเมื่อส่องกระจกเห็นว่า ผม fit & firm ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พุงที่เคยยื่นออกมาถูกแทนที่ด้วย six-pack เป็นที่เรียบร้อย เอวลดลง 2 นิ้วจนสามารถหยิบกางเกงเก่าตัวโปรดที่แขวนซุกไวัด้านในสุดของตู้เสื้อผ้ามาใส่ได้อีกครั้ง
นอกจากนั้น ผมยังได้ยินภรรยาสุดที่รักชื่นชมผมว่าตอนนี้ผมกลับเป็นหนุ่มฟิตเปรี๊ยะเหมือนตอนเราแต่งงานใหม่ๆ และผมเองก็รู้สึกเหมือนเป็นหนุ่มขึ้นสักสิบปีทั้งร่างกายและจิตใจ ก่อนนอนทุกคืน ผมทำ self reflection และมีโอกาสได้ทำงานเชิงลึกกับตัวเอง ผมบอกตัวเองว่า ผมภูมิใจในตัวผมเองมาก เราทำได้แล้ว เราบรรลุเป้าหมายแล้ว และขอขอบคุณ COVID-19 ที่ทำให้ผมสามารถเอาเวลาที่เคยสูญเสียไปกับการเดินทางไปที่ทำงานและที่อื่นๆ มาใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
แน่นอนเหลือเกิน ผมไม่อาจทราบได้เลยว่าใครเป็นคนเขียนเรื่องราวข้างต้นไว้! แต่ผมขอคารวะและชื่นชมเขาอย่างจริงใจ ที่เขาสามารถสนุกกับการกักตัวตลอด 3 สัปดาห์และใช้เวลาให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ แสดงว่า เขารู้จักเลือกที่จะควบคุมการดำเนินการได้อย่างเหมาะสมในการตอบสนองกับเหตุการณ์ที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ จนเกิดผลลัพธ์เหนือเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ แสดงว่าเขาได้ดึงศักยภาพทรัพยากรภายในที่เขามีอยู่ เสมือนภูเขาน้ำแข็งในส่วนที่อยู่ใต้ผิวน้ำ มาใช้อย่างเต็มที่ ได้ลดความเชื่อความกลัวต่างๆ อันเป็นข้อจำกัดของเขาออกไป ได้ใช้คุณสมบัติดีๆ ที่มีอยู่ภายในตัวเขาคือ การมองโลกในแง่ดี พลิกวิกฤติเป็นโอกาสใฝ่เรียนรู้ มีความมุ่งมั่น มุมานะ ขยัน และมีวินัย ก็เลย copy ข้อความของเขามาแปะไว้ที่นี่
555 😜
เต้ย
๑๔ เมษา’ ๖๓